การดูแลผู้สูงอายุให้สุขภาพดีทั้งกายและใจนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
ด้านสุขภาพ
ดูแลเรื่องอาหาร: ผู้สูงอายุควรได้รับอาหารที่ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ เลี่ยงอาหารไขมันสูง ของหวาน และอาหารเค็ม
ส่งเสริมการออกกำลังกาย: การออกกำลังกายช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรง กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายสะดวก และช่วยป้องกันโรคต่างๆ
พาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ: ควรพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อติดตามสุขภาพและค้นหาโรคในระยะเริ่มต้น
ดูแลสุขอนามัย: ผู้สูงอายุควรอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาด แปรงฟัน ล้างมือ เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ
สังเกตอาการผิดปกติ: ควรสังเกตอาการผิดปกติของผู้สูงอายุ เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไอเรื้อรัง หายใจลำบาก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากพบอาการผิดปกติควรพาไปพบแพทย์
ด้านจิตใจ
พูดคุยให้กำลังใจ: ผู้สูงอายุต้องการการพูดคุย ให้กำลังใจ และความเอาใจใส่จากลูกหลาน ควรหาเวลาพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
หากิจกรรมให้ทำ: ผู้สูงอายุควรมีกิจกรรมทำเพื่อฆ่าเวลา ช่วยให้ไม่เหงา กิจกรรมที่เหมาะกับผู้สูงอายุ เช่น เล่นกีฬาเบาๆ ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร งานฝีมือ อ่านหนังสือ ฟังเพลง
พาไปพบปะสังสรรค์: ผู้สูงอายุควรมีโอกาสพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ครอบครัว เพื่อลดความเหงา
ดูแลให้รู้สึกปลอดภัย: ผู้สูงอายุควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ควรมีอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น ราวจับ ไฟฉาย ปุ่มฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ยังมีบริการต่างๆ ที่ช่วยดูแลผู้สูงอายุ เช่น
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ: เป็นสถานที่ดูแลผู้สูงอายุที่ครบวงจร มีทั้งบริการด้านสุขภาพ กิจกรรม และที่พัก
บ้านพักคนชรา: เป็นสถานที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการความดูแล
บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน: เป็นบริการส่งพนักงานไปดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
การดูแลผู้สูงอายุนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในครอบครัว ควรแบ่งหน้าที่กันดูแล ช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและมีความสุข